เรื่อง: ฟองน้ำ ศัตรูตัวร้ายในห้องครัว
โดย: นายณัฐดนัย เนียมทอง เป็นบทความประเภทให้ความรู้
โดย: นายณัฐดนัย เนียมทอง เป็นบทความประเภทให้ความรู้
ภาพ ฟองน้ำล้างภาชนะ
ที่มา https://support.google.com/legal/answer/3463239?sa=X&ved=2ahUKEwiq7pKFsLPdAhUGso8KHYldCE8QlZ0DegQIARAB
นักวิทยาศาสตร์ชาวเยอรมนี ดร. Cardinale M กล่าวถึงผลงานวิจัยอันน่าตกใจว่า “ฟองน้ำล้างจานนี่แหละเป็นแหล่งสะสมแบคทีเรียที่มีชีวิตใหญ่ที่สุดเท่าที่มีในบ้านหลังหนึ่ง” โดยให้ข้อมูลว่า ให้ลองจินตนาการถึงฟองน้ำขนาดเท่าก้อนน้ำตาล 1 ก้อน จะพบเซลล์แบคทีเรียอาศัยอยู่ประมาณ 54,000 ล้านเซลล์ตัวต่อ 1 ตารางเซนติเมตร และที่สำคัญคือแบคทีเรียกลุ่มนี้คือกลุ่มของแบคทีเรียก่อโรค เช่น Acinetobacter johnsonil Cryseobacterium hominis และ Moraxella ostoensis ซึ่งแบคทีเรียกลุ่มนี้มีรายงานว่าเป็นที่มาของการเกิดโรคที่เกี่ยวกับคออักเสบ
ภาพ จุลินทรีย์สายพันธุ์ Salmonella spp
ทีมา https://th.wikipedia.org/wiki/Salmonella
แบคทีเรียในฟองน้ำไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะก่อนหน้านี้ก็มีรายงานากคณะผู้วิจัยจากหลากหลายสถาบัน เช่น สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กองควบคุมอาหาร สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา และสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ที่ได้ร่วมกันดำเนินการสำรวจหาอัตราการปนเปื้อนของจุลินทรีย์ในฟองน้ำไว้และให้ข้อมูลสำคัญว่า Salmonella spp เป็นสายพันธุ์ที่พบมากที่สุดในฟองน้ำ เนื่องจากฟองน้ำมีรูพรุนจำนวนมากทำให้สามารถใช้เป็นที่อยู่อาศัยและเพิ่มจำนวนได้ ซึ่งส่วนใหญ่การสะสมนี้เกิดจากการก่อตัวของแบคทีเรียสะสมอันเนื่องจากการขาดการรักษาความสะอาดและไม่ได้ใช้ผลิตภัณฑ์น้ำยาล้างจานชนิดป้องกันเชื้อแบคทีเรีย
จะมีแนวทางป้องกันและกำจัดเชื้อแบคทีเรียสะสมได้หลายวิธี ดั้งนี้
1.ใช้ผลิตภัณฑ์นัำยาล้างจานชนิดกำตัดแบคทีเรียในฟองน้ำหลังจากใช้งานเสร็จก็ควรล้างฟองน้ำให้สะอาดผึ่งให้แห้ง
2.อาจจะใช้ความร้อนในการฆ่าเชื้อหรือถ้าเป็นไปได้ผึ่งแดดจัด2-3ชั่วโมง จะฆ่าเชื้อได้เป็นอย่างดี
1.ใช้ผลิตภัณฑ์นัำยาล้างจานชนิดกำตัดแบคทีเรียในฟองน้ำหลังจากใช้งานเสร็จก็ควรล้างฟองน้ำให้สะอาดผึ่งให้แห้ง
2.อาจจะใช้ความร้อนในการฆ่าเชื้อหรือถ้าเป็นไปได้ผึ่งแดดจัด2-3ชั่วโมง จะฆ่าเชื้อได้เป็นอย่างดี
3.การแช่ฟองน้ำในกรดน้ำส้ม 5% (Acetic acid) หรือน้ำส้มสายชู ในอัตราส่วน 4 ช้อนโต๊ะ (60 มิลลิลิตร) ผสมกับน้ำครึ่งลิตร โดยแช่ค้างคืนไว้ น้ำส้มสายชูที่ผ่านในการแช่ฟองน้ำ ไม่ควรนำมาแช่ครั้งต่อไปอีก
4. ควรเปลี่ยนฟองน้ำบ่อย ๆ
จากบทความนี้มีความคิดเห็นว่าเชื้อโรคที่เกิดมานั้นมาได้จากหลายๆแหลางแต่มันอาจจะมาจากสิ่งรอบข้างที่ใกล้ตัวเราที่สุดและสิ่งที่เราใช้ในชีวิตประจำวันของเรา เช่น ฟองน้ำที่เอาไว้ล้างจาน ซึ่งฟองน้ำล้างจานเป็นแหล่งเชื้อโรคที่มีชีวิตใหญ่ที่สุดและก่อให้เกิดโรคได้ง่ายที่สุด คนส่วนใหญ่จะไม่ค่อยได้ใส่ใจเรื่องความสะอาดกันเท่าไร ดูได้จากแม่บ้านในตอนล้างจากเวลาล้างจานเสร็จมักจะตั้งฟองน้ำเลยโดยที่ไม่ล้างฟองน้ำให้สะอาดและจะใช้จนมันเก่า มีสีดำ ฟองน้ำหลุดหรือฉีกขาด ถ้าเราเก็บฟองน้ำไว้นานแบคทีเรียก็จะสะสมไปเรื้อยๆเพิ่มมากขึ้นทำให้เราเกิดโรคได้ง่ายกว่าเดิมหรืออาจจะรุนแรงมากขึ้น
จากบทความนี้ก็สามารถนำไปปรับใช้ในด้านของการรักษาความสะอาดของฟองน้ำ การป้องกันการเกิดโรคจากสิ้งใกล้ตัวของเรา โดยการนำวิธีป้องกันมาปรับใช้ในชีวิตประจำวัน เพื่อที่จะให้ตัวเราและคนฝนครอบครัวของเราห่างไกลจากแบคทีเรียของการเกิดโรคและรู้วิธีการทำความสะอาดของฟองน้ำได้อย่างถูกต้องอีกด้วยค่ะ
จากบทความนี้มีความคิดเห็นว่าเชื้อโรคที่เกิดมานั้นมาได้จากหลายๆแหลางแต่มันอาจจะมาจากสิ่งรอบข้างที่ใกล้ตัวเราที่สุดและสิ่งที่เราใช้ในชีวิตประจำวันของเรา เช่น ฟองน้ำที่เอาไว้ล้างจาน ซึ่งฟองน้ำล้างจานเป็นแหล่งเชื้อโรคที่มีชีวิตใหญ่ที่สุดและก่อให้เกิดโรคได้ง่ายที่สุด คนส่วนใหญ่จะไม่ค่อยได้ใส่ใจเรื่องความสะอาดกันเท่าไร ดูได้จากแม่บ้านในตอนล้างจากเวลาล้างจานเสร็จมักจะตั้งฟองน้ำเลยโดยที่ไม่ล้างฟองน้ำให้สะอาดและจะใช้จนมันเก่า มีสีดำ ฟองน้ำหลุดหรือฉีกขาด ถ้าเราเก็บฟองน้ำไว้นานแบคทีเรียก็จะสะสมไปเรื้อยๆเพิ่มมากขึ้นทำให้เราเกิดโรคได้ง่ายกว่าเดิมหรืออาจจะรุนแรงมากขึ้น
จากบทความนี้ก็สามารถนำไปปรับใช้ในด้านของการรักษาความสะอาดของฟองน้ำ การป้องกันการเกิดโรคจากสิ้งใกล้ตัวของเรา โดยการนำวิธีป้องกันมาปรับใช้ในชีวิตประจำวัน เพื่อที่จะให้ตัวเราและคนฝนครอบครัวของเราห่างไกลจากแบคทีเรียของการเกิดโรคและรู้วิธีการทำความสะอาดของฟองน้ำได้อย่างถูกต้องอีกด้วยค่ะ
สรุปบทความโดย
นางสาวรจนา หนูปาน
รหัสนิสิต611031100
คณะศึกษาศาสตร์ วิชาเอกเคมี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น